>__< .. อยากหาอะไรไหม?

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

Deadwood Guide

Deadwood


ปีศาจฉายาไม้นรก

  • ความเร็วในการเคลื่อนที่
  • 300
  • Str ต่อเลเวล
  • 2.7
  • Agi ต่อเลเวล
  • 2
  • Int ต่อเลเวล
  • 1.5

ข้อมูลของ Deadwood
            ปีศาจไม้นรกถือกำเนิดในดินแดนอันโหดร้ายแห่ง Newerth มันคือตัวการที่ทำให้ป่าไม้ต้องเหี่ยวฉาว ปีศาจตัวนี้มักสับสนว่าจะนำต้นไม้มาเป็นอาวุธหรือจะทำลายทิ้งกันแน่ ทั้งๆที่ในโลกแห้ง Newerth ต่างเต็มไปด้วยภาพแห่งการทำลายล้าง Deadwood มี พละกำลังมหาศาล และมีพลังแห่งธรรมชาติของป่าไม้ ทว่าพลังธรรมชาติกลับถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดเพราะความชั่วร้ายของเผ่า Hellbourne แต่นั่นก็ทำให้มันมีพลังมากกว่าสมัยก่อนที่เป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน

            ข้อมูลพื้นฐานของ Deadwood
            เป็นฮีโร่สาย Agility ของฝั่ง Hellbourne โจมตีระยะประชิด จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในฮีโร่ Ganker ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ความสามารถของมันสามารถสังหารศัตรได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที จุดเด่นของฮีโร่ตัวนี้คือความรุนแรงของสกิลไม้ตาย และแต่ละสกิลของมันก็เหมาะกับการ Gank เช่นกัน ซึ่งหากเป็นศัตรูที่ไม่ถึกไม่หนาจริงๆ รับรองว่าได้ไปเกิดใหม่อยู่น้ำพุแน่นอน

            ข้อมูล Skill ของ Deadwood
            1. Rotten Grasp รากไม้ยึดจับ


             สกิลนี้จะเป็นการเรียกรากไม้ออกมาบนพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งมีผลให้ศัตรูที่อยู่บริเวณนั้นถูกล็อค ไม่สามารถขยับไปไหนได้ และหลังจากผ่านไป 2 วินาที จะสร้างความเสียหายเป็นเวทย์มนตร์ 100,170,230,300 หน่วย มีผลลดเกราะป้องกัน -1,-2,-3,-4 หน่วย เป็นระยะเวลา 1,1.7,2.3,3 วินาที
           
             ข้อดี สกิลนี้สามารถใช้ในระยะที่ค่องข้างไกล สามารถแอบใช้โดยที่ศัตรูไม่รู้ตัวและเข้าไปโจมตีได้

ตัวอย่างการใช้สกิล Rotten Grasp


            2. Uproot ต้นไม้สลาตัน


            กดใช้สกิลกับต้นไม้เพื่อนำมาเป็นอาวุธ มีผลให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 10,30,45,60 หน่วย และจะกลับเป็นปกติเมื่อโจมตีครบ 5 ครั้ง ขณะที่ถือต้นไม้อยู่ Deadwood จะสามารถขว้างต้นไม้ใส่ยูนิตศัตรูได้ สร้างความเสียหายทางกายภาพ 30,60,90,120 หน่วย ทำให้มึนงง และลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลง -75%

            ข้อดี สกิลนี้จะใช้ Last shot ครีปได้ง่ายในช่วงต้นเกม และสามารถใช้คอมโบกับสกิล Rotten Grasp ได้ค่อนข้างดี หลักการคือ ให้เราปาต้นไม้ใส่และรีบใช้สกิล Rotten Grasp วางตรงศัตรู เมื่อต้นไม้ลอยไปศัตรูก็จะหลบหนีได้อย่าง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Rotten Grasp จะแสดงผลพอดี

ตัวอย่างการใช้สกิล Uproot

            3. Clearcutting ต้นไม้คือพลัง


            เป็นสกิลที่มีไว้สนับสนุนตัวเอง เมื่อกดใช้จะทำให้ติดสถานะ Clearcutting เป็นระยะเวลา 12,14,16,18 วินาที ผลของ Clearcutting จะทำลายต้นไม้ที่ Deadwood วิ่งผ่าน และมีความสามารถพิเศษคือการสะสมชาร์จ เมื่อทำลายต้นไม้ในแต่ละต้น สะสมได้มากสุด 1,2,3,4 ระดับของผลชาร์จจะช่วยให้ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 3% และเพิ่มความเร็วในการโจมตี 15 หน่วย

             ข้อดี ใช้วิ่งทะลุต้นไม้ ใช้ได้ทั้งจังหวะหลบหนีและไล่ฆ่า หรือจะเอาไว้ใช้สร้างสถานที่หลบซ่อนรอฆ่าศัตรูก็ได้ เทคนิคคือ ก่อนจะฆ่าศัตรูให้ใช้สกิลนี้วิ่งทะลุต้นไม้สะสมชาร์จเพิ่มความสามารถแล้ว ค่อยเข้าไปเชือด

ตัวอย่างการใช้สกิล Clearcutting

            4. Willowmaker ซัดให้กระเด็น!!

              ว่ากันดื้อๆสำหรับสกิลนี้ก็คือการ ชกศัตรู! สามารถสร้างความเสียหายทางกายภาพ ได้ 350,650,950 หน่วย และมีผลติดสถานะมึนงงเป็นระยะเวลา 1.5 วินาที แถมยังลด Stregth ลง -20% กับลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลง 35% เป็นเวลา 3 วินาที

              ข้อดี คือการลดเกราะ เป็นสกิลที่ควรใช้ในตอนเริ่มคอมโบ เพราะจะช่วยลดเกราะและ Strength ทำให้ศัตรูอ่อนแอลงและจะทำให้สกิลอื่นๆที่จะตามมาแสดงผลได้รุนแรงขึ้น

ตัวอย่างการใช้สกิล Willowmaker

Scout Guide




Scout นักฆ่าไร้ร่องรอยที่มักมาพร้อมกับฮู้ดคลุมหัวสีน้ำตาล

  • ความเร็วในการเคลื่อนที่
  • 315
  • Str ต่อเลเวล
  • 1.7
  • Agi ต่อเลเวล
  • 3.0
  • Int ต่อเลเวล
  • 1.4
ข้อมูลของ Scout

             Scout ได้ถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ให้ว่องไว ให้เงียบกริบ และอันตราย Scout ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในป่าลึก หลังจากได้เข้าร่วมสงครามกับ Beast Horde พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะใช้พลังแห่งธรรมชาติในการต่อสู้กับพวก Hellbourne เพื่อปกป้อง Newerth เอาไว้ ทว่าบางครั้งเหล่า Hellbourne ก็ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าพรรคพวกของเขาตายเพราะสาเหตุใด นั่นก็เป็นเพราะความเงียบของ Scout

             ข้อมูลพื้นฐานของ Scout
         
             Scout เป็นฮีโร่ที่คนนิยมเล่นกันอย่างมาก ด้วยความที่ว่องไว แถมยังตีแรงสาดๆ และยังสามารถหายตัวได้ด้วย เป็นฮีโร่ที่ได้ทั้ง gank และ carry แถมยังฆ่ามันสะใจ มีความเร็วในการเคลื่อนที่ 315 และเป็นฮีโร่โจมตีระยะประชิด
            ข้อมูล Skill ของ Scout

            1. Vanish จงไร้ร่องรอย...
            สกิลหากินที่จะทำให้ตัวของ Scout หายไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และในขณะที่สกิลนี้ยังสำแดงผลจะมีความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 25%  สามารถเปิดปิดการใช้งานได้ และเมื่อเปิดใช้งานจะเสีย มานา  2,3,4,5 หน่วยต่อวินาที และหากโจมตีจะทำให้หลุดจากสถานะล่องหน และได้รับความเร็วในการโจมตีเพิ่มขึ้น 300 % เป็นจำนวน 1,2,3,4 ครั้ง มี Cooldown 24 วินาที
             ข้อดี สุดยอดสกิลสารพัดประโยชน์ที่ได้ทั้งหายตัว วิ่งเร็ว แถมยังตีเร็วอีก ถ้าไม่อัพก็เสียดายของจริงๆ
            2. Electric Eye  จงเปิดออก ดวงตาที่สาม
            เป็นอีกหนึ่ง Skill ที่ทำให้คู่ต่อสู้ปวดหัวอีกครั้ง เมื่อ Electric Eye สามารถเปิดการมองเห็นในบริเวณนั้นๆ เป็นระยะ 800 หน่วย ใช้มองเห็นยูนิตล่องหนได้ และยังสามารถกดทำลายเพื่อใบ้คู่ต่อสู้เป็นระยะเวลา 3,4,5,6 วินาที ต้องกดใช้ในขณะหายตัวเป็นจำนวนสูงสุด 3,4,5,6 อัน มี Cooldown 30 วินาที
            ข้อดี ไม่ต้องเสียเงินซื้อ Eye มีระยะการมองเห็นที่กว้างและมองยูนิตล่องหนได้
            3. Disarm อย่าให้มันได้ใช้อาวุธ!!
             เป็นสกิลประเภท Passive ที่จะทำให้โจมตีติดคริติคอล x1.4,x1.6,x1.8,x2.0 และปลดอาวุธของศัตรู 2 วินาที
             ข้อดี ทำให้การต่อสู้ระยะประชิดของ Scout ดุดันขึ้นมาก และใช้เวลาไม่นานในการฆ่าศัตรู
             4. Markman Shot ธนูของข้าจงปักกลางหัวใจ
             Unti ที่จะทำให้ไม่มีใครหนีรอดจากการฆ่าของ Scout เป็น อีกหนึ่งสกิลที่ทำให้ฮีโร่ตัวนี้ดูครบเครื่องในเรื่องการฆ่าขึ้นมาทันใด เพราะนอกจากจะมีการต่อสู้ระยะประชิดแล้ว ระยะไกลก็ใช้ว่าจะน้อยหน้า สกิลนี้เป็นการใช้หน้าไม้สร้างความเสียหายในระยะไกล 1500,2000,2500 หน่วย สามารถสร้างความเสียหายได้ 250 หน่วย + 10%,20%,30% ตามจำนวนพลังชีวิตสูงสุดของศัตรู แต่จะทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง -20%,-30%,-40% เป็นเวลา 4 วินาที มี Cooldown 50 วินาที
             ข้อดี สามารถสังหารศัตรูที่สามารถหนีจากการลอบฆ่าระยะประชิดได้เป็นระยะที่ไกลมาก


             เทคนิคการเล่น Scout (หมายเหตุ เป็นเพียงการแนะแนวการเล่น ไม่จำเป็นต้องทำตามไปทั้งหมด)

             บทบาทของ Scout ในช่วงต้นเกม
             Scout เป็นฮีโร่ประเภท Carry ดังนั้นจึงไม่ควรทำอะไรวู่วามมากนัก เริ่มเกมมาให้อัพสกิล Electric Eye และไปวางตรงตำแหน่ง Rune เกิดทั้ง 2 จุด ไม่ควรจะไปเลนกลาง และพยายามเก็บเงินจาก Creep ให้มากที่สุด เล่นอย่างระมัดระวังอย่าให้ตาย ให้ซื้อ Ghost Marches และพยายามเก็บเงินโดยมีเป้าหมายเป็น Runed Cleaver สามารถฆ่าศัตรูในเลนได้ด้วยการใช้สกิล Vanish แต่เพื่อความปลอดภัยควรมีเพื่อนช่วยอยู่ข้างๆ

             Item ที่ Scout ควรซื้อเมื่อเริ่มเกม

Iron Buckler
Logger's Hatchet
Runes of the Blight





              บทบาทของ Scout ในช่วงกลางเกม
              Scout ในช่วงกลางเกมควรจะมี Runed Cleaver จะทำให้เราสามารถหาเงินได้ง่ายอย่างมาก และสามารถสังหารศัตรูที่มีพลังชีวิตไม่มากนักได้ด้วยตัวคนเดียว โดยการ Vanish เข้าไปโจมตีจะทำให้ตีเร็วขึ้น หากพลังชีวิตเหลือน้อยพอและศัตรูกำลังจะหนีไปได้ ก็ให้ใช้ Markman shot สังหาร ส่วนเรื่องไอเทม ให้เสริมการโจมตีด้วย Shieldbreaker และเสริมการป้องกันด้วย Shrunken Head ด้วยโดยเป้าหมายในช่วงนี้จะเป็นศัตรูที่มีพลังชีวิตน้อยๆ ซึ่งถ้า Shieldbreaker อัพเต็มเลเวล 3 อาจจะสามารถฆ่าศัตรูได้ด้วยการ Vanish แล้วต่อด้วยโจมตีเพียง 4 ครั้งเลยก็ได้

              Item ที่ Scout ควรมีเมื่อถึงกลางเกม


             บทบาทของ Scout ในช่วงท้ายเกม
             เป็นช่วงเวลาที่นักฆ่าไร้เสียงของเราจะโหดที่สุด ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด ตอนนี้ไม่ว่าศัตรูหน้าไหนมาเห็นเราต่างต้องเผ่นแน่บไปคนละทาง สำหรับทักษะการ Kill ให้ใช้วิธีเดิมคือ Vanish เข้าไปแล้วฟัน หลังจากนั้นก็ใช้ Markman shot สังหารหากศัตรูเหลือรอด และไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครหยุดเราได้ เพราะไอเทม Shrunken Hean จะทำให้เราไม่โดยสกิลของศัตรู และให้เสริมการโจมตีด้วย Savage Mace กับ Abyssal Skull มาด้วยเพื่อเป็นออร่าดูดเลือด และจะไม่ทับกันกับเอฟเฟค ของ Shieldbreaker

             Item ที่ Scout ควรมีเพิ่มเมื่อถึงท้ายเกม


Nomad Guide

Nomad

โฉมหน้าพระเอกรูปหล่อที่จะทำให้สาวๆกรี๊ด
  • ความเร็วในการเคลื่อนที่
  • 310
  • Str ต่อเลเวล
  • 2.0
  • Agi ต่อเลเวล
  • 2.6
  • Int ต่อเลเวล
  • 2.2
 

 ข้อมูลของ Nomad

           นักฆ่าที่มีประสบการณ์ไล่ล่ามาอย่างโชกโชน เขาปรากฎตัวขึ้นครั้งแรกเมื่อตอนเย็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงจากทะเล ทราย เขาทำหน้าที่เป็นนักส่งสารของ Legion ที่มีต้นกำเนิดมาจากทะเลทรายซึ่งถูกทอดทิ้ง มีข่าวลือว่าเขาเคียดแค้น Sand Wraith เขาไล่ล่ามันมาเกือบชั่วชีวิตของเขา และนักฆ่าผู้นี้ยังไม่เป็นที่ไว้ใจในเผ่า Legion อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามความสามารถและความว่องไวของเขาก็สามารถเข่นฆ่าเหล่า Hellbourne ได้ง่ายๆเช่นกัน

            ข้อมูลพื้นฐานของ Nomad
            
            เป็นฮีโร่สาย Agility ที่เก่งกาจ มีความเร็วในการเคลื่อนที่ 310 หน่วยทำให้สามารถไล่ตามศัตรูได้ง่าย และหากถูกNomadเข้าประชิดตัว มีโอกาสสูงที่ศัตรูจะตาย

            ข้อมูล Skill ของ Nomad

            1. Sandstrom ทรายพรางตัว




            Nomad ทำการเรียกพายุทราย เพื่อห้อหุ้มตัวเองและเพื่อนพ้องให้อยู่ในสถานะล่องหน และยังช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ของตัวเองและสามารถใช้ลดความเร็วของ ฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย เมื่อเปิดใช้งานจะมีพายุทรายเกิดขึ้นรอบตัว Nomad เป็นระยะเวลา 4 วินาที ทีมเดียวกันที่อยู่ในระยะจะได้รับผลความเร็วในการเคลื่อนที่ 8%,12%,16%,20% และศัตรูที่อยู่ในระยะจะลดความเร็วในการเคลื่อนที่ -15%,-20%,-25%,-30% Cooldown 24 วินาที

           ข้อดี  สามารถใช้ได้ทั้งจังหวะไล่ล่าหรือหนีได้เป็นอย่างดี และยังสามารถช่วยเพื่อนที่ถูกไล่ล่าอยู่ให้หายตัวไปด้วยกันได้

ตัวอย่างการใช้สกิล Sandstorm

            2. Mirage Strike 2ท่าในสกิลเดียว

            เมื่อกดใช้ Mirage Strike จะมีสกิลแยกให้ใช้2อย่างคือ True Strike กับ Mirage Strike 
            True Strike จะเป็นการวิ่งออกไปโจมตีศัตรู สร้างความเสียหาย 80,120,160,200 หน่วย และเพิ่มความเร็วในการโจมตี 20,40,60,80 เป็นเวลา 3 วินาที
             Mirage Strike ส่งร่างแยกออกโจมตีศัตรู สร้างความเสียหาย 40,60,80,100 หน่วย และจะเปลี่ยนตัวเราเป็นสถานะล่องหน 3 วินาที
           มีจุดเด่น คือ Cooldown จะถูกรีเซ็ตเมื่อศัตรูถูกฆ่าในระยะ 500 หน่วย
           ข้อดี มีข้อดีแตกต่างกันขึ่นอยู่กับผู้ใช้ ในกรณีที่ตัวเราโหดมากๆควรใช้ True Strike เพราะมีคุณสมบัติเพิ่มความเร็วในการโจมตี ส่วน Mirage Strike จะใช้ได้ทั้งหนีและจังหวะเข้าบวก การใช้สกิลนี้จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ซะส่วนใหญ่
ตัวอย่างการใช้สกิล Mirage Strike
  

            3. Wanderer เก็บพลังเอาไว้ดาบของข้า

             สะสมพลังดาบเอาไว้ขณะเคลื่อนที่และใช้พลังนั้นสังหารศัตรู เป็นสกิลประเภท Passive
             ช่วยเพิ่มโบนัสให้พลังโจมตี 40%,60%,80%,100%  ตามลำดับเมื่อเคลื่อนที่ครบระยะ 1000 หน่วย ในกรณีที่มีชาร์จน้อยกว่า 20 ชาร์จ การโจมตีจะส่งผลเท่ากับความแรง 25 ชาร์จ


ตัวอย่างการใช้สกิล Wanderer

            4. Edge Counter การโจมตีจงหวนกลับไป


            Nomad ทำการสะท้อนพลังโจมตีกลับไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว เป็นการดูดพลังโจมตีของศัตรูแล้วโจมตีกลับไปด้วยคลื่นพลังขนาดใหญ่
            เมื่อกดใช้ Nomad จะลอยตัวกลางอากาศ 1 วินาที ในระหว่างนี้ Nomad จะสามารถสะท้อนพลังกลับไปด้วยคลื่อนพลังขนาดยักษ์ มีผลให้ติดสถานะมึนงง 2,2.5,3 วินาที  สร้างความเสียหายเป็นเวทย์มนตร์ 200,310,420 หน่วย

            ข้อดี  มีประโยชน์ในการสะท้อนพลังกลับ แต่ต้องกะจังหวะเวลาใช้ให้ดี ถ้าใช้ผิดพลาดอาจเสียสกิลไปฟรีๆ

ตัวอย่างการใช้สกิล Edge Counter


            เทคนิคการเล่นฮีโร่ Nomad (หมายเหตุ เป็นเพียงแนะนำแนวทางในการเล่นไม่จำเป็นต้องทำตามไปทั้งหมด)
             
            บทบาทของ Nomad ในช่วงต้นเกม
            สำหรับ Nomad ในช่วงต้นเกมเหมาะที่จะไปเลนกลางคนเดียว มากที่สุด โดยให้เน้นเรื่องการเก็บเงินเป็นหลัก พยายาม last shot creep ให้ได้มากๆ ใช้สกิล Mirage Strike ส่งร่างแยกไปตอดศัตรูบ้าง ให้ซื้อ Bottle of Tears มา เพื่อให้ใช้ Mirage Strike ได้บ่อยขึ้น พยายามเก็บรูนบ่อยๆ ถ้าได้รูนดีๆอย่างเช่น Haste ให้เลือกเป้าหมายตุ๋ยได้เลย และ Edge Counter ไม่ได้มีไว้เฉพาะสถานการณ์ที่เราเป็นฝ่ายถูกโจมตีเท่านั้น แต่การ Gank ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน เมื่อศัตรูเห็นเราเป็นธรรมดาที่จะต้องตอบโต้ ให้เรากะจังหวะดีๆแล้วใช้สกิลนี้สวนกลับไปเลย จากนั้นพยายามเก็บเงินออกไอเทม Ghost Marchers และ Helm of the black legion

            Item ที่ Nomad ควรมีเมื่อเริ่มเกม


            บทบาทของ Nomad ในช่วงกลางเกม
            Nomad ในช่วงกลางเกมเริ่มจะมีสกิลครบแล้ว ความแรงในการโจมตีก็มีพอสมควร ดังนั้นเราจึงควรจะเติมเกมรุกเข้าไปอีกด้วย Shieldbreaker และ Assasin's Shroud จะช่วยให้ตีแรงและต่อคอมโบได้ดีขึ้นมาก และยังเอาตัวรอดได้ดีอีกด้วย พยายามวิ่งไล่ gank ศัตรูให้มากๆเพื่อสร้างความได้เปรียบกับทีม

            Item ที่ Nomad ควรมีเพิ่มเมื่อถึงกลางเกม



            บทบาทของ Nomad ในช่วงท้ายเกม
            Nomad ในช่วงท้ายเกมอาจจะไม่ได้เปรียบศัตรูมาก ด้วยเลือดที่น้อยดังนั้นจึงควรเสริมการป้องกันด้วย Shrunken Head จะช่วยได้มากในจังหวะปะทะ และเมื่อเสริมการป้องกันไปแล้วก็ควรเสริมพลังโจมตีเข้าไปอีกด้วย Riftshard แถมยังมีโอกาสโจมตีติด Critical ได้ด้วย ทว่า Nomad นั้นเป็นฮีโร่ที่ติดค้างอยู่กับคำว่า Semi-carry ซึ่ง อาจพัฒนาเป็น carry ขึ้นอยู่กับวิธีการเล่นของเรา

            Item ที่ Nomad ควรมีเพิ่มเมื่อถึงท้ายเกม